3 มิ.ย. นี้ Inn Train พานั่งรถไฟไปเที่ยวนครปฐม

ครั้งหนึ่งในชีวิต กับประสบการณ์ย้อนยุค นั่งรถไฟไอน้ำ เที่ยวเมืองนครปฐม

การรถไฟแห่งประเทศไทย จัดให้มีการเดินขบวนรถพิเศษนำเที่ยวโดยใช้หัวรถจักรไอน้ำโบราณตั้งแต่รุ่นสงครามโลกครั้งที่สอง และเป็นหนึ่งในหัวรถจักรไม่กี่คันที่ยังใช้งานได้อยู่ โดยทุกปีการรถไฟฯจะจัดเดินขบวนรถพิเศษที่ใช้หัวรถจักรไอน้ำนี้เพียงแค่ปีละ 6 ครั้งเท่านั้น เฉพาะในวันสำคัญได้แก่ 

  • วันที่ 26 มีนาคม วันสถาปนากิจการรถไฟ 
  • วันที่ 3 มิถุนายน วันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณพระบรมราชินี 
  • วันที่ 28 กรกฎาคม วันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว 
  • วันที่ 12 สิงหาคม วันแม่แห่งชาติ 
  • วันที่ 23 ตุลาคม วันปิยมหาราช 
  • วันที่ 5 ธันวาคม วันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ

 

ในวันศุกร์ที่ 3 มิถุนายน 2565 นี้ การรถไฟฯจะได้จัดเดินรถไฟขบวนพิเศษหัวรถจักรไอน้ำโบราณระหว่าง กรุงเทพ-นครปฐม เดินทางด้วยตู้พัดลมชั้นสามทั้งขบวน ทาง Inn Train จึงได้ร่วมจัดโปรแกรมท่องเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับ โดยมี 2 รูปแบบให้เลือก

โปรแกรมหลัก: นมัสการพระปฐมเจดีย์ เดินเที่ยวตลาดน้ำ ย่ำโคลนดำนา

โปรแกรมนี้เหมาะสำหรับครอบครัว พ่อแม่ลูก เพราะออกแบบมาเอาใจเด็กๆโดยเฉพาะ กับกิจกรรมที่ "ทุ่งทำนา" นั้นเด็กๆชอบกันมาก ที่เป็นไฮไลท์เลยคือ สไลเดอร์โคลน ส่วนค่ากิจกรรมนั้นที่นี่เขาเก็บเฉพาะคนที่ทำกิจกรรมเท่านั้น คนละ 600 บาท

   07:30น.   พร้อมกันที่สถานีรถไฟหัวลำโพง ใช้เวลาถ่ายรูปกับหัวรถจักรไอน้ำรุ่นแปซิฟิก(สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง)ซึ่งหาชมได้ยาก

   08:10น.   ขบวนรถไฟออกเดินทางจากหัวลำโพง Inn Train ให้บริการท่านด้วยอาหารเช้า

   10:30น.   (เวลาโดยประมาณ) ถึงสถานีรถไฟนครปฐม(พระปฐมเจดีย์) ออกเดินทางต่อโดยรถตู้ปรับอากาศไป "ตลาดน้ำดอนหวาย"

   11:30น.   ถึง ตลาดน้ำดอนหวาย จับจ่ายซื้อของฝาก และรับประทานอาหารกลางวันตามอัธยาศัย

   12:30น.   ออกเดินทางจาก ตลาดน้ำดอนหวาย โดยรถตู้ไป ศูนย์การเรียนรู้เกษตรอินทรีและฟาร์มชุมชน "ทุ่งธรรมนา"

   13:00น.   ถึง ทุ่งธรรมนา สนุกกับกิจกรรมการเรียนรู้เกษตรอินทรี โดยมีค่าใช้จ่ายต่างหากคนละ 600 บาท (ไม่บังคับ) โดยสามารถทำกิจกรรมเหล่านี้ได้ ดำนา สไลเดอร์โคลน เก็บไข่ ปั้นกระถาง ทำไข่เค็ม ไข่ครก

   15:30น.   ออกเดินทางจาก ทุ่งธรรมนา กลับไปสถานีรถไฟนครปฐม

   16:00น.   ถึงสถานีนครปฐม นมัสการพระปฐมเจดีย์

   16:30น.   รถไฟออกจากสถานีนครปฐม เดินทางกลับกรุงเทพฯ

   18:20น.   รถไฟถึงสถานีกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ

ราคาท่านละ 1,650 บาท (เด็กอายุ 2-6 ขวบคนละ 1,500 บาท | ต่ำกว่า 2 ขวบคนละ 600 บาท)

ราคานี้รวม: ตั๋วรถไฟชั้นสาม(พัดลม)ไปกลับ กรุงเทพ-นครปฐม | อาหารเช้าและอาหารว่างเช้าและบ่ายเสิร์ฟบนรถไฟ | รถตู้ปรับอากาศเดินทางท่องเที่ยวตามโปรแกรม | ประกันอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง | บริการจากทีมงาน Inn Train ตลอดการเดินทาง

ราคานี้ไม่รวม: อาหารกลางวัน และ ค่ากิจกรรมที่ทุ่งธรรมนา

 

โปรแกรมเที่ยวไปในสไตล์คุณ

โปรแกรมนี้ออกแบบมาสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเป็นกลุ่มและต้องการกำหนดโปรแกรมท่องเที่ยวเอง หมายความว่า เราทุกคนยังนั่งรถไฟขบวนพิเศษนี้ไปด้วยกันหมด แต่เมื่อถึงสถานีนครปฐมแล้ว จะมีรถตู้รับไปท่องเที่ยวตามที่ทางกลุ่มจะได้แจ้งไว้ก่อน โดยทีมงาน Inn Train จะอำนวยความสะดวกและดูแลตลอดการเดินทาง จากนั้นก็กลับมาขึ้นรถไฟพร้อมกันอีกครั้งในเวลาไม่เกิน 16.30น. เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ

เงื่อนไขคือต้องมีตั้งแต่ 8 คนขึ้นไป ราคาเริ่มต้นที่ท่านละ 1,650 บาท ราคาอาจเปลี่ยนแปลงขึ้นกับสถานที่ที่จะไปและจำนวนคนทั้งหมด

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อเรา

โทร. 093-128-8665
Line ID: @inntrain
Facebook: inntrain

แนะนำสถานที่น่าเที่ยวในนครปฐม

สำหรับท่านที่เลือกโปรแกรมเที่ยวเอง เราขอเสนอสถานที่น่าเที่ยวในนครปฐม โดยแนะนำว่าให้ศึกษาเส้นทางการเดินทางระหว่างสถานที่ต่างๆและเผื่อเวลาไว้ในกรณีการจราจรคับคั่งเนื่องจากเป็นวันหยุด

ดูตัวอย่างสถานที่ที่ Inn Train พาคณะท่องเที่ยวไปเมื่อปี 2562 โดยครั้งนั้นเราไป ตลาดน่ำทุ่งบัวแดง ชุมชนคลองมหาสวัสดิ์ และทุ่งธรรมนา

 

พระราชวังสนามจันทร์
(อ.เมือง)

ตั้งอยู่ในตัวเมือง ห่างจากองค์พระปฐมเจดีย์ ไปทางทิศตะวันตก ประมาณ 2 กิโลเมตร พระราชวังสนามจันทร์ สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นบริเวณที่เชื่อว่าเป็นพระราชวังเก่าของกษัตริย์สมัยโบราณที่เรียกว่า "เนินปราสาท" เพื่อใช้เป็นสถานที่ประทับเวลาเสด็จมานมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ และทรงเห็นว่านครปฐมเป็นเมืองที่มีชัยภูมิเหมาะสำหรับต้านทานข้าศึก ซึ่งจะยกเข้ามาทางน้ำได้อย่างดี ด้วยทรงจดจำเหตุการณ์ เมื่อ ร.ศ. 112 ที่ฝรั่งเศสนำเรือรบเข้ามาปิดปากอ่าวไทยได้ และไม่ต้องการที่จะให้ประเทศไทยตกอยู่ในสภาพดังกล่าว จึงตั้งพระทัยที่จะสร้างพระราชวังสนามจันทร์ไว้สำหรับเป็นเมืองหลวงที่สอง หากประเทศชาติประสบปัญหาวิกฤติ

 

ลานแสดงช้างและฟาร์มจระเข้สามพราน
(อ.สามพราน)

‘ลานแสดงช้างและฟาร์มจระเข้สามพราน’ เปิดให้บริการนักท่องเที่ยวมาตั้งแต่ พ.ศ. 2528 เพื่อให้เป็นแหล่งความรู้ แหล่งเพาะพันธุ์พืชและสัตว์ โดยเฉพาะจระเข้ที่ใกล้สูญพันธุ์จากแหล่งน้ำธรรมชาติ รวมถึงเป็นแหล่งอนุรักษ์ช้างโดยนำช้างตกงานจากสุรินทร์มาฝึกหัดเพื่อแสดงโชว์ความสามารถ ทำให้ช้างจำนวนหนึ่งได้อยู่เป็นหลักแหล่ง ไม่ต้องออกร่อนเร่หากินตามท้องถนน บริเวณลานแสดงช้าง ใช้ทำการแสดงช้างประกอบเสียงและแสดงมายากล ถ้าอยากนั่งช้างชมวิวก็มีกิจกรรมขี่ช้างท่องอุทยานไว้บริการ

ส่วนที่เป็นฟาร์มเพาะเลี้ยงจระเข้ จะมีบ่อเพาะเลี้ยงจระเข้น้ำจืด น้ำเค็ม และพันธุ์ผสม ทุกบ่อจะปูพื้นด้วยซีเมนต์ก่อนกลบดินทับ เพื่อป้องกันจระเข้ขุดดินและหลุดออกนอกบ่อ ส่วนพื้นที่ทำการแสดงจับจระเข้ด้วยมือเปล่าจะทำในบ่อน้ำตื้น และมีอัฒจรรย์ 2 ชั้นให้นักท่องเที่ยวนั่งชม บริเวณหน้าเรือนกล้วยไม้จะมีบอร์ด เกี่ยวกับวงจรชีวิตของช้าง จระเข้ กล้วยไม้ ฯลฯ ให้เป็นแหล่งเรียนรู้และทัศนศึกษา

นอกจากนี้ยังมีสถานที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น อุทยานปลาน้ำจืด สนามเด็กเล่น สวนสัตว์ขนาดเล็ก ลานต้นไทรสำหรับนั่งพักผ่อน หรือจะชมลูกช้าง เกิดใหม่ และป้อนอาหารช้างก็ยังได้ รวมถึงมีร้านอาหารไทย ซุ้มขนม น้ำดื่ม ไว้บริการให้กับนักท่องเที่ยวแบบครบวงจร

 

วัดไร่ขิง
(อ.สามพราน)

วัดไร่ขิง หรือ ‘วัดมงคลจินดาราม’ ในอดีตเป็นที่อยู่ของชาวจีนและนิยมปลูกขิงกันอย่างแพร่หลาย วัดไร่ขิงเป็นวัดที่มีชื่อเสียงและอยู่คู่บ้านคู่เมืองนครปฐมมามากกว่าร้อยปี ตำนานเล่าว่า พระพุทธรูปหลวงพ่อวัดไร่ขิง ซึ่งประดิษฐานในพระอุโบสถ ลอยน้ำมาและอัญเชิญขึ้นไว้ที่วัดศาลาปูน องค์พระพุทธรูปเป็นเนื้อทองสัมฤทธิ์ปางมารวิชัย นอกจากสักการะหลวงพ่อวัดไร่ขิงแล้ว บริเวณริมแม่น้ำหน้าวัดมีปลาสวายตัวโตนับพัน นักท่องเที่ยวสามารถซื้อขนมปังเลี้ยงอาหารปลาได้ 

 

ตลาดน้ำทุ่งบัวแดง
(อ.บางเลน)

ตลาดน้ำทุ่งบัวแดงเป็นอีกหนึ่งจุดที่น่าไป โดยเฉพาะสายโพสต์ สายกิน ต้องห้ามพลาด เพราะมีไฮไลท์อยู่ที่นั่งเรือถ่ายรูปกลางนาบัวโดยใช้โดรนในการถ่าย รูปที่ออกมาสวยมากมีเป็นร้อยๆรูปให้เลือก จะซื้อเป็นรูปๆ หรือซื้อเหมาทั้งหมดก็ได้ เชื่อว่าหลายคนเห็นรูปแล้วคงเลือกไม่ถูก ชอบรูปนี้แต่ก็เสียดายรูปนั้น สุดท้ายก็ซื้อเหมาหมด  ส่วนสายกิน แนะนำ "เมี่ยงกลีบบัว" ทั้งสวยและอร่อย และเป็นหนึ่งในเมนูขายดีของที่นี่

 

ตลาดน้ำวัดลำพญา
(อ.บางเลน)

เมื่อมาเยือน ‘วัดลำพญา’ สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือความสวยงามอันสงบร่มเย็น เนื่องจากได้รับการบูรณะและพัฒนาเป็นอย่างดี วัดนี้ถือกำเนิดขึ้นราวปี พ.ศ. 2400 อยู่คู่กับชุมชนมานานนับ 100 ปีแล้ว ภายในวัดมีหลวงพ่อมงคลมาลานิมิต พระพุทธรูปปางมารวิชัย ที่สร้างด้วยศิลาแลง พอกปูนและปิดทองทับ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมมากราบสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล อีกทั้งมีตลาดน้ำชื่อดังซึ่งผู้คนต่างแวะเวียนกันมาเที่ยวไม่ขาดสาย ‘ตลาดน้ำลำพญา’ จัดว่าเป็นแหล่งรวมผลิตผลทางการเกษตรนานาชนิด อาหารไทยคาวหวานในราคาถูก เช่น ก๋วยเตี๋ยวเรือ ห่อหมก ขนมเปี๊ยะ ฯลฯ ยังมีงานฝีมือพวกผ้าทอ ผ้าย้อม เครื่องจักสาน ให้เลือกซื้อไปเป็นของฝากได้อีก ช้อปของกันแล้วจะแวะไปดูปลาหน้าวัดก็เพลินดี เพราะมีปลากหลายชนิดมาก เช่น ปลาสวาย ปลากระแห ปลาแรด ปลาเทโพ ฯลฯ 

          ที่น่าสนใจคือกิจกรรมทางน้ำที่ทางวัดมีบริการ ก็คือ เรือล่องแม่น้ำท่าจีน โดยมีเรือและเส้นทางให้เลือกตามชอบ เช่น เรือแจวโบราณ ออกจากหน้าวัดลำพญาไปนมัสการศาลเจ้าแม่ทับทิม ใช้เวลาประมาณ 30 นาที เรือลาก ออกจากหน้าวัดลำพญาไปวัดสุขวัฒนาราม ที่บริเวณหน้าวัดลำพญามีวังปลาชุกชุมสามารถให้อาหารปลาได้ และ เรือกระแชง ออกจากหน้าวัดลำพญาไปวัดบางพระ (วัดหลวงพ่อเปิ่น) ใช้เวลาประมาณ 2.30 ชั่วโมง

 

คลองมหาสวัสดิ์
(อ.นครชัยศรี)

ถ้าพูดถึงแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่สำคัญของจังหวัดนครปฐมที่เป็นที่รู้จักกันดีของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เชื่อว่าหลายคนต้องนึกถึงคลองมหาสวัสดิ์ โดยเฉพาะการล่องเรือชมสวนและวิถีชีวิตชาวบ้านริมคลองมหาสวัสดิ์

เมื่อครั้งที่ Inn Train จัดทริปนั่งรถไฟไปนครปฐมเมื่อปี 2562 (ก่อนโควิดจะระบาด) ก็พาไปนั่งเรือในคลองมหาสวัสดิ์นี่แหละ  โดยระหว่างล่องเรือพวกเราจะแวะตามจุดต่างๆที่น่าสนใจ เช่น นาบัว สวนกล้วยไม้ สวนผลไม้ เป็นต้น ได้เห็นว่าชาวบ้านริมคลองเขาใช้ชีวิตกันอย่างไร

 

 

 ขอบคุณข้อมูลและภาพบางส่วนจากเว็บไซต์จังหวัดนครปฐม http://www.nakhonpathom.go.th/